เครื่องปั้นดินเผาที่ขึ้นชื่อของเกาะเกร็ด
เพราะความโดดเด่นทั้งด้านวัฒนธรรม ศิลปหัตกรรมและสิ่งแวดล้อม จึงทำให้เกาะเกร็ดกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวของชาวไทยและต่างชาติ จนได้รับสมญานามว่า"เกาะเกร็ดอัศจรรย์ เกาะเกร็ดกลางน้ำ" แต่ผลพวงของการเป็นการเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับชาติตั้งแต่ปี 2540 ทำให้การจัดการขยะที่ยังไม่มีประสิทธิภาพกลายเป็นปัญหาที่นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงในการลบต่อพื้นที่เกาะเกร็ด เช่นเดียวกับการไหลบ่าของวัฒนธรรมจากภายนอกผ่านการท่องเที่ยว ทำให้วิถีชีวิตเก่าแก่ของชุมชนเปลี่ยนแปลงไปจนแทบจะเรียกได้ว่าเกิดความทรุดโทรมทั้งด้านวัตถุและธรรมชาติก็ไม่ผิดนัก
มีของให้เลือกซื้อมากมายหลายชนิด อาทิเช่น ผ้าข้าวม้า
โชคดีที่ยังมีผู้เห็นคุณค่าของศิลปวัฒนธรรม วิถีชีวิต และธรรมชาติของชุมชนเกาะเกร็ด จึงทำให้โครงการ"เกาะเกร็ดอัศจรรย์ ร่วมกันกันฟื้นฟู สิ่งแวดล้อมน่าอยู่ ควบคู่ชาวบ้าน" เริ่มขึ้นในปี 2547-2548 โดยมีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงระบบนิเวศของชุมชนเกาะเกร็ดในด้านสิ่งแวดล้อมที่มุ่งเน้นการจัดการขยะมูลฝอยโดยคณะกรรมการนักธุรกิจเพื่อสิ่งแวดล้อมไทย(ฝ่ายกิจกรรมภาคสนาม)และสมาคมอนุรักษ์ศิลปกรรมและสิ่งแวดล้อม เป็นผู้ดำเนินการ เกาะเกร็ดจึงค่อยๆฟื้นกลับมาเหมือนเดิมอีกครั้ง
ขนมถ้วยแสนอร่อยราคาย่อมเยาว์
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
ด้วยลักษณะพื้นที่ที่เป็นเกาะชุมชนบ้านเรือนต่างๆ จึงตั้งอยู่ตามริมแม่น้ำ ส่วนบริเวณพื้นที่กลางเกาะจะเป็นผืนนากว้างดังนั้น เส้นทางท่องเที่ยวบนเกาะเกร็ดส่วนใหญ่จึงเป็นทางเดินรอบๆ เกาะ ชุมชนบนเกาะเกร็ดมีอยู่ 7 หมู่บ้าน แต่ละหมู่บ้านมีลักษณะแตกต่างกันไป ทั้งเรื่องของเชื้อชาติ วิถีชีวิต อาชีพและศาสนา การเดินทางเที่ยวบนเกาะเกร็ดนั้น ส่วนใหญ่จะเริ่มต้นกันที่ท่าเรือวัดปรมัยฯ การเดินทางเที่ยวเกาะเกร็ดให้ทั่วทั้งเกาะนั้นจะต้องใช้เวลาร่วมๆหนึ่งวัน แต่หากมีเวลาไม่มากก็สามารถเดินเที่ยวได้ โดยเริ่มที่วัดปรมัยฯเป็นจุดแรก วัดแห่งนี้มีอายุกว่า 200 ปี
วัดปรมัยฯหรือวัดเจดีย์เอียง
เป็นวัดรามัญมาแต่โบราณ เป็นอารมหลวงชั้นโท มีพระอุโบสถ พระบุษบกหอพระไตรปิฎกภาษามอญแห่งเดียวในเมืองไทย พระเจดีย์ทรงรามัญ นอกจากนั้นยังมีพระประจำจังหวัดนนทบุรีประดิษฐานอยู่ภายในวัด หลังจากเที่ยวชมภายในวัดแล้ว เราสามารถเดินเลือกซื้อข้าวของประเภทเครื่องปั้นดินเผาของเชามอญ รวมทั้งอาหาร-ขนมหวานต่างๆ อาหารเด็ดๆ ก็จะเห็นจะเป็นทอดมันหน่อกะลา ก๋วยเตี๋ยวหน่อกะลา ห่อหมกหน่อกะลา รวมทั้งหน่อกะลาสด ที่สามารถซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านได้ ส่วนขนมหวานก็มี เช่น ขนมผักกาด จ่ามงกุฏ ขนมหันตราเป็นต้น เมื่อเดินเลือกซื้อชิมอาหารที่หมู่7(บ้านโอ่งอ่าง)เสร็จเรียบร้อยแล้ว
ขนมมอญ
ขนมหม้อแกงโบราณ
เดินมาสักพักจะมาถึงวัดไผ่ล้อมซึ่งเป้นวัดสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา ชาวมอญเรียกว่า เพี้ยะโต๊ะ มีดบสถ์หน้าบันคันทวยสวยงามมาก มีเจดีย์ทรงระฆังรูปบาตรคว่ำยอดกลมประดับลายปูนปั้นสวยงาม บริเวณหน้สวัดจะมีท่าเรือและตลาดสดช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ หากเดินเลยไปนิดจะเป้นชุมชนหมู่ 6 (บ้านเสาธง)ที่นี้จะเป็นแหล่งเครื่องปั้นดินเผาชาวผอญอีกทั้งมีเตาเผาโบราณปรากฏอยู่ สถานที่น่าสนใจมีเจดีย์สมัยอยุธยา หอสวดมนต์ วิหาร ประตูลงรักปิดทอง ตุกขุนเทพภักดี ต้นยางใหญ่อายุกว่า 200 ปี นี่เป็นเส้นทางเดินเที่ยวเกาะเกร็ดสั้นๆ แต่หากว่ามีเวลาทั้งวันเราสามารถเดินต่อเรื่อยๆ จะเจอวันขามทอง วัดฉิมพลี(วัดสมัยอยุธยาที่งดงามมาก)วัดศาลากุย วัดป่าเลไลย์ก์ ตลอดเส้นทางรอบเกาะจะมีสวนผลไม้ อย่างสวนทุเรียน ลิ้นจี่ มะม่วง กล้วยหอม ฯลฯและบริเวณพื้นที่ตรงกลางจะเป้นทุ่งนา ป่าตาล และนาบัวกว้างใหญ่สวยงามมาก
บ้านริมน้ำของชาวบ้านเกาะเกร็ดที่ยังคงความเป็นไทย
เกาะเกร็ด ได้อนุญาตให้ใช้ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบAttribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น